
คำศัพท์ที่ควรหลีกเลี่ยงในงานทางการ มีศึกษากันเถอะ
หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมงานเขียนราชการหรืองานที่เป็นทางการถึงต้องใช้ภาษาที่ดูห่างเหินและเข้าใจยาก? บางครั้งเราก็เผลอใช้คำพูดในชีวิตประจำวันไปในงานสำคัญๆ จนทำให้งานดูไม่เป็นมืออาชีพ วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่า “คำศัพท์ที่ควรหลีกเลี่ยงในงานทางการ” มีอะไรบ้าง พร้อมเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรใช้ และมีคำไหนมาใช้แทนได้บ้าง รับรองว่าอ่านจบแล้ว งานเขียนของคุณจะดูโปรขึ้นทันที!
- ทำไมต้องเลี่ยง? เหตุผลเบื้องหลังการใช้ภาษาที่เหมาะสม
- ประเภทของคำที่ควรเลี่ยง แบ่งตามลักษณะการใช้งาน
- คำพูดในชีวิตประจำวัน (คำสแลง)
- คำที่สื่อความหมายคลุมเครือ
- คำที่แสดงอารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัว
- คำที่ใช้ในการพูดแต่ไม่เหมาะกับการเขียน
- เจาะลึก: คำศัพท์ที่ไม่ควรใช้ในงานทางการ (พร้อมคำแนะนำสำหรับคำที่ใช้แทน)
- บทสรุป: สร้างความน่าเชื่อถือด้วยภาษาที่ใช่
1. ทำไมต้องเลี่ยง?
การใช้คำศัพท์ที่เหมาะสมในงานที่เป็นทางการ ไม่ใช่แค่เรื่องของความถูกต้องทางไวยากรณ์ แต่เป็นเรื่องของการ สร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ งานทางการมีจุดประสงค์เพื่อสื่อสารข้อมูลอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา และเป็นกลาง การใช้คำที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ดูไม่จริงจัง หรือลดทอนความสำคัญของเนื้อหาลง ลองคิดดูว่าถ้าเราเห็นประกาศจากหน่วยงานรัฐบาลที่เต็มไปด้วยคำว่า "โคตรเจ๋ง" หรือ "น่ารักอะ" เราจะรู้สึกอย่างไร? แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือจะลดลงทันที เพราะภาษาในงานทางการทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือและเป็นระบบ
2. ประเภทของคำที่ควรเลี่ยง
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เราจะแบ่งคำที่ควรเลี่ยงออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าคำเหล่านั้นมีลักษณะอย่างไร
-
คำพูดในชีวิตประจำวัน (คำสแลง): คำเหล่านี้เป็นคำที่เราใช้พูดคุยกับเพื่อนสนิท เช่น "โคตร", "เจ๋ง", "ปัง", "ฟิน", "จิกกัด", "เม้าท์มอย" หรือคำที่แสดงอาการอย่าง "งอแง", "มึนตึ๊บ" คำเหล่านี้เหมาะสำหรับบทสนทนาที่ไม่เป็นทางการ แต่ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ในรายงาน, หนังสือราชการ, อีเมลธุรกิจ หรือบทความวิชาการ เพราะจะทำให้เนื้อหาดูไม่น่าเชื่อถือและลดทอนความเป็นทางการลงไป
-
คำที่สื่อความหมายคลุมเครือ: คำเหล่านี้เป็นคำที่ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เจาะจงหรือชัดเจน เช่น "ค่อนข้าง", "ประมาณ", "ส่วนใหญ่", "บ้าง", "อะไรทำนองนั้น" การใช้คำเหล่านี้บ่อยๆ อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกไม่มั่นใจในข้อมูลที่คุณนำเสนอ เช่น แทนที่จะบอกว่า "จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นประมาณ 100 คน" ควรระบุตัวเลขที่แน่นอนไปเลยว่า "จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น 112 คน" หรือใช้คำว่า "จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 คน" เพื่อให้ข้อมูลชัดเจนขึ้น
-
คำที่แสดงอารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัว: งานทางการควรมีความเป็นกลางและเป็นวัตถุวิสัย คำที่แสดงอารมณ์ส่วนตัว เช่น "น่าเสียดาย", "ดีใจมาก", "รู้สึกผิดหวัง" จึงไม่ควรใช้ ยกเว้นในกรณีที่เป็นการเขียนจดหมายส่วนตัวหรือจดหมายแสดงความยินดี เช่น แทนที่จะเขียนว่า "น่าเสียดายที่โครงการนี้ไม่สำเร็จ" ควรเขียนว่า "โครงการนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด" เพื่อให้มีความเป็นกลางมากขึ้น
-
คำที่ใช้ในการพูดแต่ไม่เหมาะกับการเขียน: คำเหล่านี้เป็นคำที่เราใช้ในการสื่อสารแบบปากเปล่า แต่เมื่อนำมาเขียนจะดูไม่สละสลวย เช่น "และอื่นๆ", "อะไรอย่างนี้", "อย่างงี้" หรือการใช้คำเชื่อมที่มากเกินไป เช่น "ก็", "แต่ก็", "แล้วก็" ในการเขียนควรเลือกใช้คำเชื่อมที่เหมาะสมและมีความหมายชัดเจนกว่านี้
3. เจาะลึก: คำศัพท์ที่ไม่ควรใช้ในงานทางการ
มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดแล้ว เราจะมาเจาะลึกกันว่าแต่ละคำที่เรามักใช้ผิดๆ ในงานทางการนั้น มีคำไหนบ้าง และควรใช้คำไหนมาแทน
กลุ่มที่ 1: คำสแลงและภาษาปาก
- "โคตร", "โคตรๆ"
- ไม่ควรใช้เพราะ: เป็นคำสแลงที่แสดงการเน้นย้ำแบบไม่เป็นทางการ
- คำที่ใช้แทน: "อย่างมาก", "อย่างยิ่ง", "เป็นอย่างยิ่ง", "สูงมาก"
- ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "ผลการดำเนินงานดีโคตรๆ" ควรใช้: "ผลการดำเนินงานเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม"
- "เจ๋ง", "ปัง"
- ไม่ควรใช้เพราะ: เป็นคำชมที่ไม่เป็นทางการ
- คำที่ใช้แทน: "ยอดเยี่ยม", "ดีเยี่ยม", "ประสบความสำเร็จ", "เป็นที่น่าพอใจ"
- ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "แผนการตลาดครั้งนี้ปังมาก" ควรใช้: "แผนการตลาดครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี"
- "จิกกัด", "เม้าท์มอย"
- ไม่ควรใช้เพราะ: เป็นคำที่มีความหมายเชิงลบและไม่เป็นทางการ
- คำที่ใช้แทน: "วิพากษ์วิจารณ์", "กล่าวถึงในแง่ลบ"
- ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "อย่าเอาเรื่องนี้ไปเม้าท์มอยกับใครนะ" ควรใช้: "โปรดเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ"
กลุ่มที่ 2: คำคลุมเครือและไม่เจาะจง
- "ค่อนข้าง"
- ไม่ควรใช้เพราะ: ทำให้ข้อมูลไม่ชัดเจนและไม่แม่นยำ
- คำที่ใช้แทน: "จำนวนมาก", "บางส่วน", "ส่วนใหญ่" หรือระบุข้อมูลที่แน่นอน
- ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "สินค้าได้รับความนิยมค่อนข้างมาก" ควรใช้: "สินค้าได้รับความนิยมเป็นอย่างดี" หรือ "สินค้าได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าหลัก"
- "ประมาณ"
- ไม่ควรใช้เพราะ: บ่งบอกถึงการประมาณการที่ไม่แม่นยำ หากมีข้อมูลที่แน่นอนควรใช้ตัวเลขนั้นไปเลย
- คำที่ใช้แทน: ระบุตัวเลขที่แน่นอน หากไม่ทราบให้ใช้คำว่า "มากกว่า/น้อยกว่า..." เพื่อให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
- ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 200 คน" ควรใช้: "มีผู้เข้าร่วมงาน 215 คน" หรือ "มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 200 คน"
กลุ่มที่ 3: คำที่แสดงอารมณ์หรือความคิดเห็นส่วนตัว
- "รู้สึกว่า..."
- ไม่ควรใช้เพราะ: ทำให้ประโยคดูเป็นความเห็นส่วนตัวมากกว่าข้อเท็จจริง
- คำที่ใช้แทน: "มีข้อสังเกตว่า...", "จากการวิเคราะห์พบว่า..."
- ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "รู้สึกว่าโครงการนี้น่าจะดีกว่านี้" ควรใช้: "โครงการนี้ยังมีโอกาสในการปรับปรุงในด้าน..."
- "น่าเสียดาย"
- ไม่ควรใช้เพราะ: แสดงอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่เป็นกลาง
- คำที่ใช้แทน: "เป็นที่น่าเสียใจที่...", "ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด", "ยังไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง"
- ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "น่าเสียดายที่งบประมาณไม่พอ" ควรใช้: "เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด จึงไม่สามารถดำเนินโครงการได้เต็มรูปแบบ"
กลุ่มที่ 4: คำที่ใช้ในการพูดแต่ไม่เหมาะกับการเขียน
- "อะไรทำนองนั้น", "อะไรแบบนี้"
- ไม่ควรใช้เพราะ: ทำให้ประโยคไม่กระชับและไม่เป็นทางการ
- คำที่ใช้แทน: ระบุสิ่งที่ต้องการสื่อสารให้ชัดเจน หรือใช้คำว่า "เป็นต้น"
- ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "เราจะจัดการประชุมเรื่องปัญหาต่างๆ อะไรทำนองนั้น" ควรใช้: "เราจะจัดการประชุมเพื่อหารือปัญหาเรื่อง..."
- การใช้คำซ้ำซ้อน
- "ร่วมกันทั้งสองฝ่าย"
- ไม่ควรใช้เพราะ: คำว่า "ร่วมกัน" ก็หมายถึงตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไปอยู่แล้ว การใช้ "ทั้งสองฝ่าย" จึงซ้ำซ้อน
- ควรใช้: "ร่วมกัน" หรือ "ร่วมกันทั้งสองฝ่าย" ในกรณีที่ต้องการเน้นย้ำจริงๆ
- "เพื่อที่จะ"
- ไม่ควรใช้เพราะ: คำว่า "เพื่อ" ก็มีความหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมี "ที่จะ"
- ควรใช้: "เพื่อ..."
- "ร่วมกันทั้งสองฝ่าย"
4. บทสรุป: สร้างความน่าเชื่อถือด้วยภาษาที่ใช่
การเลือกใช้คำศัพท์ที่เหมาะสมในงานทางการเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยยกระดับงานเขียนของคุณให้ดูน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพมากขึ้น เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการ ฝึกสังเกต คำที่เรามักใช้ผิด และ หาคำที่เหมาะสมมาใช้แทน การใช้ภาษาที่ถูกต้อง ไม่เพียงแต่จะช่วยให้งานเขียนของคุณดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสที่จะเกิดความเข้าใจผิด และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวคุณเองและองค์กร
การฝึกฝนเป็นกุญแจสำคัญ เริ่มจากการอ่านงานเขียนทางการที่ดีๆ บ่อยๆ และลองเขียนเองดู เมื่อคุ้นชินแล้ว การใช้ภาษาที่ถูกต้องในงานที่เป็นทางการก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ และนั่นจะทำให้คุณเป็นนักสื่อสารที่น่าเชื่อถือในทุกสถานการณ์