คำนวณสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่

สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์, รถจักรยานยนต์, และสินเชื่อส่วนบุคคลบางประเภท

กราฟการผ่อนชำระ
ภาพรวมการลดลงของยอดหนี้คงเหลือในแต่ละเดือน
เงื่อนไขสินเชื่อ
สรุปข้อมูลสินเชื่อ
ค่างวดต่อเดือน

฿0.00

ดอกเบี้ยทั้งหมด

฿0.00

ยอดชำระรวม

฿0.00

(เงินต้น ฿800,000.00)

ตารางผ่อนชำระ
งวดที่ค่างวดหักเงินต้นหักดอกเบี้ยยอดหนี้คงเหลือ
ความแตกต่างระหว่างดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) และ ลดต้นลดดอก (Effective Rate)

เมื่อพูดถึงเรื่องสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อบ้าน เรามักจะได้ยินคำว่า "ดอกเบี้ยคงที่" และ "ลดต้นลดดอก" ซึ่งเป็นวิธีการคิดดอกเบี้ยที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้ดีขึ้นมาก

ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) มักใช้กับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ หลักการของมันง่ายและตรงไปตรงมา คือ ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจาก "เงินต้นเต็มจำนวน" เพียงครั้งเดียว แล้วนำไปคูณกับระยะเวลาผ่อนทั้งหมด จากนั้นจึงนำดอกเบี้ยที่คำนวณได้มารวมกับเงินต้น แล้วหารด้วยจำนวนงวดทั้งหมดเพื่อหาค่างวดต่อเดือน ข้อดีคือค่างวดจะเท่ากันทุกเดือนและคำนวณง่าย แต่ข้อเสียสำคัญคือ แม้คุณจะจ่ายเงินต้นไปบางส่วนแล้ว ดอกเบี้ยก็ยังคงถูกคิดจากเงินต้นก้อนแรกสุดอยู่ดี ทำให้การจ่ายโปะเพื่อปิดยอดก่อนกำหนดอาจไม่ช่วยลดดอกเบี้ยเหมือนที่หลายคนเข้าใจ (ยกเว้นมีเงื่อนไขพิเศษจากสถาบันการเงิน)

ในทางกลับกัน ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ซึ่งนิยมใช้กับสินเชื่อบ้าน จะมีความยืดหยุ่นและเป็นธรรมกับผู้กู้มากกว่า วิธีนี้ ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจาก "ยอดเงินต้นคงเหลือ" ในแต่ละงวด เท่านั้น นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่คุณจ่ายค่างวด ส่วนหนึ่งจะไปตัดเงินต้นให้ลดลง และเมื่อเงินต้นลดลง ดอกเบี้ยในงวดถัดไปก็จะลดลงตามไปด้วย นี่คือเหตุผลว่าทำไมการ "จ่ายโปะ" หรือจ่ายเกินค่างวดในสินเชื่อบ้านจึงได้ผลดีมาก เพราะเงินส่วนที่จ่ายเกินจะถูกนำไปตัดเงินต้นโดยตรง ทำให้ยอดหนี้ลดลงอย่างรวดเร็วและประหยัดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไปได้มหาศาลในระยะยาว